แผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว (พ.ศ. 2565–2580) ได้วางแนวทาง “การย้ายถิ่นเพื่อทดแทนประชากร” (Replacement Migration) เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของประเทศ เพื่อดึงดูดแรงงานคุณภาพจากทั้งในและต่างประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพแรงงานเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในปัจจุบันยังขาดความชัดเจนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบข้อมูล หน่วยงานกลาง หรือกลไกการสร้างฉันทามติจากภาคส่วนต่าง ๆ
แผนพัฒนาประชากรเพื่อการพัฒนาประเทศระยะยาว (พ.ศ. 2565–2580) ได้วางแนวทาง “การย้ายถิ่นเพื่อทดแทนประชากร” (Replacement Migration) เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของประเทศ เพื่อดึงดูดแรงงานคุณภาพจากทั้งในและต่างประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพแรงงานเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในปัจจุบันยังขาดความชัดเจนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบข้อมูล หน่วยงานกลาง หรือกลไกการสร้างฉันทามติจากภาคส่วนต่าง ๆ
การจัดเวทีสาธารณะ “สานพลังไทย รับมือสังคมสูงวัย ไปด้วยกัน” ครั้งที่ 4 / 2568 ในประเด็น การย้ายถิ่นทดแทนประชากรรับมือสังคมสูงวัย (Replacement Migration) : โอกาสและความท้าทายที่รอการจัดการ จึงมีเป้าหมายสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางรากฐานของนโยบาย Replacement Migration ที่มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ รอบด้าน และขับเคลื่อนร่วมกันได้จริง
ในบริบทของสังคมสูงวัยที่ประชากรวัยแรงงานหดตัวอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการเรื่องการย้ายถิ่นไม่สามารถจำกัดอยู่เพียงหน่วยงานที่รับผิดชอบทะเบียน หรือจำกัดอยู่เพียงการควบคุมชายแดนอีกต่อไป หากแต่ต้องถูกยกระดับให้เป็น “กลยุทธ์สำคัญของการพัฒนาประเทศ” ที่เชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจ การคลัง แรงงาน สวัสดิการ และการออกแบบอนาคตประชากรในภาพรวม
ประเทศไทยมีประสบการณ์ในการเปิดรับคนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างต่อเนื่องในประวัติศาสตร์ การย้ายถิ่นจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่สิ่งที่ยังขาดคือระบบบริหารจัดการที่มองการณ์ไกล มีข้อมูลที่ทันสมัย และมีกลไกขับเคลื่อนที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
การยอมรับว่า “การย้ายถิ่นเพื่อทดแทนประชากร” เป็นเครื่องมือหนึ่งในการเสริมสร้างความสามารถในการอยู่รอดของระบบเศรษฐกิจและสังคม เป็นจุดตั้งต้นสำคัญที่สังคมไทยต้องมีร่วมกัน
ภาพรวมจากเวทีสะท้อนว่าประเด็น Replacement Migration ไม่ใช่ทางเลือกเชิงนโยบายอีกต่อไป หากแต่เป็น “ความจำเป็นเชิงโครงสร้าง” ที่ประเทศไทยต้องจัดการอย่างเร่งด่วน การเดินหน้าเรื่องนี้อย่างมีเป้าหมาย จำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารสาธารณะที่ชัดเจน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และกลไกเชิงนโยบายที่มีความยืดหยุ่น โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
การเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทยไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่คือ “ความจริงที่กำลังดำเนินอยู่” — และกำลังนำพาเราสู่ภาวะวิกฤตโครงสร้างประชากรที่ยากจะแก้ไขด้วยแนวทางเดิมๆ การที่อัตราการเกิดต่ำเหลือเพียง 1.08 ขณะที่ประชากรวัยแรงงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การ “คงอยู่” ของระบบเศรษฐกิจ สวัสดิการ และความมั่นคงทางสังคม กลายเป็นคำถามสำคัญของยุคนี้
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว แนวคิด “การย้ายถิ่นทดแทนประชากร” (Replacement Migration) ซึ่งเคยเป็นประเด็นที่สังคมไทยลังเลและหลีกเลี่ยง กลับถูกผลักดันขึ้นมาเป็น “ยุทธศาสตร์ระดับชาติ” ที่ต้องจัดการอย่างจริงจังและรอบด้าน โดยไม่จำกัดเพียงมิติการควบคุมคนเข้าเมือง แต่เชื่อมโยงเข้ากับเศรษฐกิจ สวัสดิการ การศึกษา แรงงาน และสิทธิมนุษยชนอย่างลึกซึ้ง
จากเวที “สานพลังไทย รับมือสังคมสูงวัย ไปด้วยกัน” ครั้งที่ 4/2568 the SPACE เห็นว่ามี “ความเปลี่ยนแปลงทางวาทกรรม” ที่สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือการพูดถึงการย้ายถิ่นไม่ใช่ในฐานะ “ภาระ” แต่คือ “ศักยภาพที่ต้องบริหาร” และไม่ใช่เพียงเรื่องของทะเบียน หรือความมั่นคงดั้งเดิม แต่คือกลไกสำคัญของการพัฒนาประเทศในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สะท้อนจากเวทีนี้คือ การขาดระบบบริหารจัดการที่ “ทันสมัยและยืดหยุ่น” การไม่มีหน่วยงานกลางที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูล ขับเคลื่อนนโยบาย และสร้างฉันทามติจากภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการขาดกลไกเชิงรุกที่ทำให้การย้ายถิ่นไม่ใช่แค่ “การเข้ามาทำงาน” แต่คือการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยอย่างเต็มรูปแบบ
เนื้อหาและข้อเสนอจากเวทีนี้ จะได้รับการสังเคราะห์และขยายความอย่างต่อเนื่องใน บทความฉบับถัดไป โดยมุ่งถ่ายทอดรายละเอียดเชิงลึกของประเด็นสำคัญที่ได้จากนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในเวทีครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างประชากร เศรษฐกิจ สวัสดิการ แรงงาน หรือความมั่นคง
theSPACE ชวนคุณร่วมติดตามชุดบทความนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมกันเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการขับเคลื่อนนโยบาย Replacement Migration—นโยบายที่อาจเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่สุดของการอยู่รอดและเติบโตของสังคมไทยในอนาคตอันใกล้
สังเคราะห์และเรียบเรียงจาก: