ภาพประกอบ




ทุนมนุษย์: รากฐานการเติบโตของชาติ ท่ามกลางความเปราะบางทางประชากร



ชวนตั้งคำถามก่อนอ่าน ??



เราลงทุนกับ “คนไทย” ได้คุ้มค่าพอหรือยัง?


          ถ้าทุนมนุษย์คือหัวใจของการพัฒนาประเทศ แล้วเหตุใดเด็กไทยจึงยังเติบโตได้ไม่เต็มศักยภาพ และระบบใดที่กำลังขัดขวางไม่ให้คนไทยทุกคนได้ “เป็นได้อย่างที่ควรจะเป็น” ?


          ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างประชากรที่ท้าทายอย่างยิ่ง อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง การเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว และจำนวนแรงงานในระบบที่ลดลง ล้วนเป็นปัจจัยสะท้อนถึงความเปราะบางเชิงโครงสร้างที่กำลังรอวันปะทุ การเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของไทยในอนาคตจึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า “ทุนมนุษย์” ไม่ใช่ในฐานะทรัพยากรแรงงานเท่านั้น หากแต่คือองค์ประกอบพื้นฐานที่เชื่อมโยงระหว่างการศึกษาที่มีคุณภาพ สุขภาพที่ดี โอกาสในการเรียนรู้ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพตลอดช่วงชีวิต



รายงานทุนมนุษย์ในบริบทของการเปลี่ยนผ่านเชิงประชากร

          รายงาน “การพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย: การศึกษาช่องว่าง อุปสรรค และทางเลือกเชิงนโยบาย” ที่จัดทำโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โดยได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยกำลังยืนอยู่ตรงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ การตัดสินใจว่าจะลงทุนกับคนไทยอย่างไร จะเป็นตัวกำหนดว่าไทยจะสามารถหลุดพ้นจากกับดักการเติบโตต่ำและความเหลื่อมล้ำเรื้อรังได้หรือไม่



สัญญาณเตือนจากดัชนีทุนมนุษย์ของไทย

          สาระสำคัญของรายงานเริ่มต้นจากข้อเท็จจริงที่น่ากังวลว่า เด็กที่เกิดในประเทศไทยวันนี้ จะสามารถใช้ศักยภาพของตนเองได้เพียงร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับมาตรฐานสูงสุดในสถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุด ดัชนีทุนมนุษย์ของไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.61 นี้ เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าการลงทุนในคนไทยยังขาดประสิทธิภาพ และยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าประชากรทุกคนจะเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม



มองทุนมนุษย์ผ่านกรอบวิเคราะห์ตลอดวงจรชีวิต

          รายงานฉบับนี้มีจุดแข็งอยู่ที่การมองภาพรวมของทุนมนุษย์ในลักษณะเชิงระบบ ผ่านกรอบวิเคราะห์ที่เรียกว่า life cycle หรือวงจรชีวิต โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ช่วงวัย ได้แก่ วัยเด็กเล็ก วัยเรียน วัยหลังภาคบังคับ และวัยแรงงาน ซึ่งในแต่ละช่วงวัยพบว่าประเทศไทยยังมี “ช่องว่าง” (gaps) ของผลลัพธ์ด้านทุนมนุษย์ที่น่ากังวล ขณะที่ “อุปสรรค” (bottlenecks) ในระบบก็ยังทำให้การดำเนินนโยบายที่ผ่านมาไม่บรรลุผลอย่างที่ควรจะเป็น และท้ายที่สุดรายงานได้นำเสนอ “ทางเลือกเชิงนโยบาย” ที่สามารถนำไปปรับใช้จริงได้ทันทีหากมีเจตจำนงทางการเมืองและการขับเคลื่อนเชิงระบบ



การขับเคลื่อนทุนมนุษย์ในระดับระบบ

          นอกจากการวิเคราะห์เชิงระบบ รายงานยังได้บูรณาการมุมมองจากภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคราชการ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งต่างเห็นพ้องกันว่า "การพัฒนาทุนมนุษย์" จะไม่เกิดขึ้นได้หากไม่มีการปฏิรูประบบอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นระบบราชการ ระบบการจัดสรรงบประมาณ ระบบการผลิตครู หรือแม้กระทั่งทัศนคติของสังคมต่อการเรียนรู้ที่ยังติดกับดักโครงสร้างเก่า

          ข้อเสนอหนึ่งที่สำคัญคือการยกระดับการคุ้มครองทางสังคมแบบครอบคลุมและทั่วถึง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้และพัฒนาอย่างไม่ถูกขัดขวางจากสถานะทางเศรษฐกิจ ครอบครัว หรือพื้นที่ตั้ง พร้อมกันนี้ ยังต้องมีระบบการติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่องและแม่นยำ เพื่อให้การวางนโยบายและการจัดสรรทรัพยากรสามารถตอบโจทย์ที่แท้จริงได้



บทสรุปในมุมมองของ the SPACE

          การพัฒนาทุนมนุษย์ไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในแผนยุทธศาสตร์ของรัฐ หรือในหน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น หากแต่คือกระบวนการทางสังคมที่ทุกภาคส่วนต้องมีบทบาทร่วมกัน เพราะ “คน” ไม่ใช่เพียงแรงงานในระบบเศรษฐกิจ แต่คือหัวใจของทุกการเปลี่ยนแปลงและความหวังของประเทศในระยะยาว

          รายงานฉบับนี้ตอกย้ำสิ่งที่ the SPACE เชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ความเหลื่อมล้ำไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อคนจนโตมาเป็นผู้ใหญ่แล้วตกงาน หรือเมื่อเด็กเรียนไม่จบเพราะไม่มีทุน แต่ความเหลื่อมล้ำเริ่มก่อตัวตั้งแต่ “ชีวิตเริ่มต้น” และถูกทับถมต่อเนื่องในแต่ละช่วงวัย เพราะระบบยังไม่สร้างโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูตั้งแต่วัยทารก คุณภาพครู ความยืดหยุ่นของระบบการศึกษา หรือโครงสร้างการฝึกทักษะที่ยังเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ

          ในสายตาของ the SPACE การพัฒนาทุนมนุษย์จึงไม่ใช่เพียงการ “เติมทักษะ” ให้กับแรงงาน หากแต่คือการปลดล็อกระบบที่ขัดขวางการเติบโตของผู้คนในทุกระดับ และต้องเริ่มจากการตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า… “เรากำลังสร้างประเทศเพื่อใคร?” หากคำตอบคือ “เพื่อคนไทยทุกคน” ก็ต้องทำให้แน่ใจว่าทุกคนได้เริ่มต้นจากจุดที่เท่าเทียม และได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมตามบริบทชีวิต

          นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของดัชนีเศรษฐกิจ หรือคะแนน PISA แต่คือเรื่องของศักดิ์ศรีและคุณภาพชีวิตของคนในประเทศที่เราอยากเห็นเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง.


สังเคราะห์และเรียบเรียงจาก:

  • การประชุมเพื่อเผยแพร่รายงานการพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศไทย: การศึกษาช่องว่าง อุปสรรค และทางเลือกเชิงนโยบาย โดย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับองค์การยูนิเซฟประเทศไทย (UNICEF Thailand)

  • วันที่ 30 กรกฎาคม 2568
    ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก กรุงเทพฯ