City sightseeing

ทุกมุมเมือง มีเรื่องเล่า

เซี่ยงไฮ้ “วิถีชีวิตที่เดินเคียงคู่ไปกับความเปลี่ยนแปลง”

EP.4 เรื่องเล่าข้างถนน “วัฒนธรรม การเสี่ยงโชค และบริการทางสังคม”


      ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงบทสุดท้ายของซีรีส์ “รีวิวเซี่ยงไฮ้” จากประสบการณ์จริงของผู้มาเยือนที่ทั้งตื่นตาและประทับใจอย่างสุดหัวใจ จาก EP.1 ที่พาไปรู้จักกับระบบขนส่งสาธารณะที่เปลี่ยนเมืองให้เดินได้ ไปจนถึง EP.3 ที่พูดถึงคุณภาพชีวิตผ่านพื้นที่สาธารณะที่มีอยู่แทบทุกหัวมุม วันนี้เราขอปิดท้ายด้วย “เรื่องเล่าข้างถนน” ที่เราได้ซึมซับจากมุมเล็กมุมน้อยของผู้คน สิ่งที่พบเห็นระหว่างทาง และภาพสะท้อนวัฒนธรรมจีนร่วมสมัยที่หลายคนอาจไม่ทันได้สังเกต แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เรา “รู้สึกถึงเมือง” ได้อย่างแท้จริง ทริปเซี่ยงไฮ้ในปี 2024 ของเรากำลังเดินทางมาถึงบทสุดท้าย และเช่นเดียวกับทุกบทสรุปที่ดี มันไม่ได้จบด้วยความอลังการ แต่จบด้วยความอบอุ่นใจจากสิ่งเล็ก ๆ ระหว่างทาง “EP. 4” นี้จึงขออนุญาตพาทุกคนออกเดินข้ามถนนอีกสักครั้ง เพื่อเล่าเรื่องราวเบา ๆ แต่ลึกซึ้ง ทั้งความงดงามของการอนุรักษ์วัฒนธรรม ความคึกคักของการเสี่ยงโชค และความใส่ใจของภาครัฐที่ไม่ละเลยประชาชนตัวเล็ก ๆ ในมหานครระดับโลกเช่นนี้



วัฒนธรรมที่ยังมีชีวิต: แต่งตัวย้อนยุค ถ่ายภาพ ทำคอนเทนต์กันแบบจริงจัง

      หนึ่งในภาพที่สะกิดหัวใจเรามากที่สุดคือที่เมืองซูโจว—เมืองแห่งคลองโบราณที่เชื่อมโยงมรดกทางประวัติศาสตร์ไว้แน่นหนา ในย่านโบราณอันคึกคัก เราเดินผ่านร้านแต่งหน้าและเช่าชุดฮั่นฝู (Hanfu) ที่เรียงรายอยู่เต็มสองข้างทาง แต่มันไม่ใช่แค่ร้านเช่าชุดเพื่อความสนุกของนักท่องเที่ยว แต่คือ “สตูดิโอวัฒนธรรม” ที่วัยรุ่นจีนลงทุนแต่งกายย้อนยุคพร้อมช่างภาพมืออาชีพ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ มีทั้งรีเฟลกเตอร์ กล้อง DSLR และพร็อพประกอบฉากครบครัน เพื่อสร้างคอนเทนต์คุณภาพลงแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Xiaohongshu (RED)

      ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทรนด์ฮั่นฝูได้กลายเป็นการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมที่แพร่หลายในหมู่คนรุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่การแสดงออกถึงความชอบ แต่คือการ “กลับไปรู้จักรากเหง้า” ของตัวเองอย่างลึกซึ้ง รายงานจาก Xinhua News และ CGTN ระบุว่า ความนิยมนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองต่าง ๆ อย่างซูโจวและหางโจว ทั้งร้านค้า แพลตฟอร์มการท่องเที่ยว และช่างภาพอิสระ ต่างร่วมกันทำให้การอนุรักษ์วัฒนธรรมกลายเป็น “การใช้ชีวิตจริง” ของคนรุ่นใหม่



ขูดหวยข้างถนน: ความหวังที่หยั่งรากในทุกมุมเมือง

      ทันทีที่เดินเข้าสู่ถนนหนานจิงลู่—ถนนคนเดินสายหลักของเซี่ยงไฮ้ที่เต็มไปด้วยร้านแบรนด์เนมและแสงไฟล้นหลาม—เรากลับสะดุดตากับ “ซุ้มขูดหวย” เล็ก ๆ ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในเงาตึกสูง นักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างชาติต่อคิวอย่างตั้งใจ บ้างขูดอย่างลุ้นระทึก บ้างก็หัวเราะเมื่อไม่ถูกรางวัล บรรยากาศผ่อนคลายราวกับกิจกรรมฆ่าเวลา แต่กลับแฝงความหมายลึก ๆ ของการ “ฝากความหวังเล็ก ๆ ไว้กับโชคชะตา”

      ลอตเตอรี่ในจีนดำเนินการโดยรัฐและแบ่งออกเป็นสองระบบใหญ่ คือ China Welfare Lottery และ China Sports Lottery ซึ่งรายได้บางส่วนถูกนำกลับไปใช้ในโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ ข้อมูลจาก China Daily เผยว่า มีการกระจาย “ตู้หวยเคลื่อนที่” หรือ Mobile lottery kiosks ไปตามพื้นที่สาธารณะทั่วเมือง โดยเฉพาะในย่านที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน เช่น ถนนหนานจิงลู่ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและเพิ่มรายได้ให้กับโครงการรัฐในเวลาเดียวกัน



บริการทางสังคม: เต็นท์สุขภาพกลางมหานคร

      ในวันหนึ่งที่เราตื่นเช้าออกไปวิ่งตามกิจวัตร เรากลับมาเจอ “สิ่งที่อบอุ่นหัวใจที่สุด” กลางมหานครแห่งความเร่งรีบ เต็นท์บริการทางสังคม ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนน มีทั้งตรวจสุขภาพ ตัดผมฟรี ตรวจฟัน สอนแยกขยะ นวดแผนจีน และแม้แต่บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต ทุกอย่าง “ฟรี” และดำเนินการโดยอาสาสมัครรุ่นใหญ่ ที่มอบรอยยิ้มพร้อมคำแนะนำด้วยความจริงใจ

      บริการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “สัปดาห์อาสาสมัครกองร้อยที่ 8 เรียนรู้จาก Lei Feng” โครงการที่ตั้งชื่อตาม Lei Feng ทหารหนุ่มผู้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละและการอุทิศตนเพื่อสังคมในยุค 1960s โครงการนี้จัดขึ้นทั่วประเทศจีนในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อย้ำเตือนคุณค่าของความเสียสละ และแสดงออกถึงความห่วงใยของรัฐต่อประชาชนในทุกระดับ



สรุปส่งท้าย: เมื่อเมืองให้ความสำคัญกับ “ผู้คน” เป็นศูนย์กลาง

      ตลอดทั้ง 4 ตอนของการรีวิวเซี่ยงไฮ้ เราได้พูดถึงการพัฒนาเมือง การเดินทางไร้เงินสด และคุณภาพชีวิตผ่านพื้นที่สาธารณะ การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้พาเราไปแค่ “สถานที่” แต่พาเราเข้าไป “ใกล้หัวใจของผู้คน” ในเซี่ยงไฮ้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ตึกระฟ้าที่เดินได้ ไปจนถึงพื้นที่สาธารณะสุดเป็นมิตร และสุดท้ายกับเรื่องเล่าข้างถนน ที่สะท้อนว่าวัฒนธรรม วิถีชีวิต และการบริการในเมืองนี้ ล้วนถูกออกแบบให้ “เชื่อมโยง” ผู้คนเข้าด้วยกัน

      สิ่งที่เราประทับใจที่สุดไม่ใช่ความอลังการของเมือง แต่คือการที่เมืองนี้ยังคง “เปิดพื้นที่ให้มนุษย์ได้มีชีวิต” ไม่ว่าจะในชุดโบราณกลางลานวัด ขูดหวยกลางถนน หรือเข้าคิวตรวจฟันในเต็นท์อาสาสมัคร นี่แหละ…คือวิถีของเมืองที่ไม่ได้แค่ “น่าอยู่” แต่ “อยู่แล้วรู้สึกดี”



และนั่นคือบทสรุปของการเดินทางที่ไม่ใช่แค่ได้เห็นเมือง… แต่ได้รู้สึกถึงเมืองอย่างลึกซึ้ง



อ้างอิง







อรรถพล คู่กระสังข์

เชื่อในพลังของการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบ สนใจสำรวจเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คน วิถีชีวิต สังคม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะรากเหง้าอีสาน ชื่นชอบการเดินทางเพื่อเปิดโลกใหม่ ๆ และชอบคลายเครียดด้วยทำอาหาร