วิถีการเรียนรู้ของคนแต่ละเจเนอเรชัน:

จาก Baby Boomers ถึง Gen Alpha



เรื่องเรียน เรื่องเล่น ของคนแต่ละ Gen เป็นอย่างไร?


         เลิกกั๊กแล้วรักก่อนนะเตง
         เปิดตัวกัน เด เด เดบิ๊วเลยมั๊ย…

         การมาของซีรีส์รักใส ๆ ในวัยเรียนอย่าง ‘Gelboys สถานะกั๊กใจ’ ชวนให้ใครหลายคนนึกย้อนไปถึงวัยเรียนของตัวเอง และคนที่ตื่นเต้นกับคอนเท้นต์นี้คงหนีไม่พ้นวัยที่โตมากับเพลงกามิกาเซ่ หรือรุ่นพ่อแม่ของตัวละครในเรื่อง ที่รู้สึกสนุกไปกับทุกประสบการณ์ที่เติบโตมาและรู้สึกด้วยว่าตัวเองแก่ขึ้นมากไปพร้อมกัน และแน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นจดหมายเหตุให้วัยรุ่น Gen Z หวนกลับมาถึงวัยเรียนของตัวเองเช่นเดียวกัน

          ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา มีกระแสการพูดถึงคนแต่ละ Gen ให้เห็นบ่อยขึ้นด้วย เช่น ‘ทำงานกับคนเจน Z เป็นแบบนั้น, Baby boomers เป็นแบบนี้’ ทำให้ผู้เขียนเองก็นึกสนุกที่จะชวนผู้อ่านมาร่วมค้นหาไปด้วยกันว่า อะไรที่ทำให้คนแต่ละวัยแตกต่างกัน ถึงขั้นแบ่งเส้นได้ว่า เพราะเราคนละ Gen กัน โดยจะขอมี challenge เล็ก ๆ ให้ผู้อ่านต่างวัยร่วมสืบค้นข้อมูลต่อถึงประสบการณ์ที่ผู้อ่านเองก็ไม่รู้จักดีพอจากในบทความนี้ ให้สมกับเป็น ‘สนามชวนเล่น’ ของ The space กันสักหน่อย



อะไรที่แบ่งเส้น ‘ว่าเราคนละ Generation กัน’


         เรามาเริ่มหาเบาะแสเรื่องนี้จากการทำความเข้าใจคนแต่ละ Gen กันก่อนเลยว่า ยุคสมัยที่เราต่างเติบโตมาเป็นอย่างไร? มีอะไรให้เราเรียนให้เราเล่นกันบ้าง? แล้วช่วงเวลานั้นเราสนใจอะไรกัน? ลองมาวิเคราะห์ผ่านประสบการณ์ของแต่ละช่วงวัยจากข้อมูลนี้กันดูนะครับ





          เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ทำให้คนแต่ละ Gen แตกต่างกัน น่าจะเป็นเรื่องของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิด การตัดสินใจ และการใช้ชีวิตของผู้คน โดยประสบการณ์ในแต่ละช่วงเวลานั้น ๆ ต่างก็หล่อหลอมให้ผู้คนเรียนรู้ที่จะอยู่รอด ปลอดภัย และได้ใช้ชีวิตของตัวเอง


มีอะไรเปลี่ยนไปในระบบการศึกษาจาก Baby boomer ถึง Gen Alpha บ้าง


          “การศึกษา” เมื่อพูดถึงคำนี้ในปัจจุบัน จะเห็นภาพผู้คนในยุคใหม่เข้าถึงการศึกษาในระบบกันมากขึ้น เมื่อเด็กที่เติบโตมาถึงกำหนดวัยเรียน ครอบครัวก็จะสนับสนุนให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือกันถ้วนหน้า เพราะปัญหาจากอดีตพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการศึกษานั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์ทุกคน แต่ทว่า รูปแบบการเรียนการสอนในประเทศของเรา ยังมีหลายประเด็นที่เป็นปัญหาและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมมาโดยตลอด ซึ่งพอจะบอกเล่าประเด็นสำคัญได้ดังนี้


          ตลอดช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา วิถีการเรียนรู้ของผู้คนในแต่ละเจเนอเรชันมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยแวดล้อมทางสังคม เทคโนโลยี และแนวคิดด้านการศึกษาในแต่ละยุค Baby Boomers เติบโตมากับระบบการเรียนรู้แบบดั้งเดิมที่เน้นการบรรยายและการอ่านหนังสือเป็นหลัก ขณะที่ Gen X เริ่มมีพื้นที่ในการเรียนรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการลงมือปฏิบัติจริง เมื่อเข้าสู่ยุคของ Gen Y ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล การเรียนรู้จึงเริ่มเปลี่ยนไปสู่รูปแบบที่ยืดหยุ่นขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะเฉพาะตัวและเรียนรู้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ในขณะที่ Gen Z และ Gen Alpha ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์และแพลตฟอร์มอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งเน้นความกระชับ สนุก และมีส่วนร่วมมากขึ้น

         จากความแตกต่างของวิถีการเรียนรู้ในแต่ละยุค ทำให้เกิดแนวทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีรูปแบบการเรียนรู้ใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่ละเจเนอเรชันมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง และรับรู้ข้อมูลในแบบที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา การเข้าใจความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์ผู้เรียนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง การใช้สื่อดิจิทัล หรือการบูรณาการเทคโนโลยีกับวิธีการเรียนรู้แบบเดิม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการพัฒนาทักษะและความรู้ของผู้คนในแต่ละเจเนอเรชัน



แล้วคุณล่ะ? คิดว่าการเรียนรู้ของตัวเองเป็นแบบไหน และรูปแบบการเรียนรู้ใดที่เหมาะกับคุณที่สุด?








นที ขำอินทร์

นักออกแบบที่ชอบคิด ชอบเล่น ชอบเที่ยว ชอบเรียนรู้ และชอบหาทำอะไร ๆ ที่สนุกอยู่ตลอดเวลา
เพราะเชื่อว่าการเริ่มต้นด้วยความสนุกจะช่วยปลุกการเรียนรู้สิ่งรอบตัวได้เสมอ